การขับรถในญี่ปุ่น ต้องใช้ใบขับขี่สากลเท่านั้น

สำหรับการขับรถในต่างแดนแล้ว สิ่งเดียวที่การันตีได้ว่า เราสามารถได้แน่นอน ก็คือ ใบขับขี่สากล หรือ International Driving Permit ที่จะได้รับการยอมรับกันทั่วโลก เช่นเดียวกับการขับรถในประเทศญี่ปุ่น ที่รองรับการใช้ใบขับขี่สากลด้วย ซึ่งมีใบนี้ ก็ขับได้แล้ว

ทิ้งนิสัยเสียการขับรถในเมืองไทย ออกไปให้หมด

การขับรถในประเทศญี่ปุ่น เป็นอะไรที่มีกฏระเบียบเคร่งครัดมากๆ หากคิดทะลึ่งลองของแล้วไซร้ เตรียมจ่ายค่าปรับบานตะไทเลยได้เลย เพราะตำรวจบ้านเค้าจะขี่มอเตอร์ไซด์มาจี้และแจกใบสั่งตรงๆ นั้นเลย เช่น อย่าขับรถแช่เลนขวาสุด เพราะที่นี่ หากขับไม่เร็ว ให้อยู่เลนกลาง กับเลนซ้ายสุด หรือแม้กระทั่งรอสัญญาณไฟ หากไม่ใช่ไฟเขียวในทางที่เราจะไป ก็อย่าแหลมไปก็พอ

การขับรถในญี่ปุ่น หากมีคนหรือจักรยานข้ามถนน ก็ต้องหยุดให้เขาข้ามเสมอ

เป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในการขับรถอย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่จะให้คนเดินเท้า หรือคนขี่รถจักรยาน ให้ข้ามถนนไปก่อน แม้สัญญาณไฟจะเขียวก็ตาม และรถคันหลังที่ตามมา ก็จะไม่บีบแตรไล่ด้วย

การขับรถข้ามทางรถไฟในประเทศญี่ปุ่น ควรหยุดเสมอ

เป็นเรื่องที่เราทำได้ในบ้านเรา ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น นั้น ก็มีทางรถไฟมากมาย ซึ่งในบางที่ อาจจะไม่มีสัญญาณเตือน หรือ เครื่องกั้น ฉะนั้น เราก็ต้องหยุดดูมองซ้าย-ขวา ให้แน่ใจที่สุด แล้วค่อยวิ่งไป ต่อให้ยังไม่มีรถไฟวิ่งมา ก็ตาม เพราะเป็นกฏหมายที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด ไม่มีเงื่อนไขใดๆ

มีการจำกัดความเร็วทุกจุด สำหรับการขับรถในประเทศญี่ปุ่น

การขับรถในประเทศญี่ปุ่น เป็นอะไรที่มีการจับตาตลอด ยิ่งกว่า AF เพราะว่ามีกล้องจับความเร็วแทบทุกมุมทุกซอย แถมมีป้ายจำกัดความเร็วย้ำตลอดทาง แต่หากมันฝืนก็ให้เหยียบเกินได้เล็กน้อย ก็ได้นะ อาทิ เช่น ถนนเส้นหนึ่งวิ่งได้แค่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเผลอเหยียบ 90-100 ก็ไม่ต้องซีเรียส เขาก็มีลูกยืดหยุ่น อะลุ่มอล่วยให้ แต่ถ้าหากเหยียบ 120 ขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมันเด้อ

คนญี่ปุ่น ค่อนข้างใจเย็นมากๆ สำหรับการขับรถ

ในบ้านเรา หากบีบแตรใส่ ถึงขั้นมีเรื่องมีราว เลือดตกยางออกแน่ๆ ตรงกันข้าม หากเป็นการขับรถในประเทศญี่ปุ่น จะไม่ค่อยบีบแตรกันเท่าไหร่ หากไม่จำเป็นจริงๆ ชนิดไม่จวนตัว ถึงแก่ชีวิต ก็ไม่บีบให้ลั่นสนั่นเท่าไหร่

ไม่มีเด็กปั๊มเสมอไป สำหรับการขับรถในประเทศญี่ปุ่น

หากคิดจะเติมน้ำมันด้วยแล้ว เป็นประเทศที่คนขับรถอย่างเราๆ ต้องเติมเอง นั่นจะลำบากมากๆ แนะนำแวะเข้าปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ ดีกว่า เพราะจะมีเด็กปั๊มให้บริการ อีกทั้งแนะนำให้เติมเต็มถัง (มันตัง) ไปเลยดีกว่า โดยในญี่ปุ่นมีน้ำมัน 4 ชนิด ได้แก่ ดีเซล (เคยู), เคโรซีน (โตยู), เรกูลาร์ และ ไฮ-อ็อคเทน ซึ่งรถเช่าของญี่ปุ่น จะใช้แบบ เรกูลาร์ แต่หากเป็นรถตู้ หรือ รถกระบะ ก็เป็น ดีเซล เหมือนบ้านเรา

หมายเหตุ - หากต้องการรายละเอียดเต็มๆ จากต้นทาง สามารถ  Click ที่นี่เลยครับ 

เป็นอย่างไรบ้างเด้อ สำหรับเนื้อหาที่อาจจะช่วยให้เป็นวิทยาทานในการขับรถในประเทศญี่ปุ่น ของ ECOCAR ที่ได้สรุปให้ในแบบที่เข้าใจง่าย อย่างไรแล้ว หากไปแล้วก็เล่ากลับมาบ้างละ ส่วนที่ใครอยากหารถเช่าขับในเมืองไทย แวะมาที่ ECOCAR ได้เลย ที่มี 9 สาขา คอยให้บริการ และจะมีการเปิดใหม่ ณ สาขาหาดใหญ่ ในวันที่ 1 พ.ค. นี้