แบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ คือ

แบตเตอรี่รถยนต์ ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยนต์เพื่อให้ทำงานได้ เช่น มอเตอร์สตาร์ท ระบบจุดระเบิด ในขณะที่สตาร์ทรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้อนพลังงานให้กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง ด้วย เช่น ระบบไฟส่องสว่าง วิทยุเครื่องเสียง เป็นต้น

 

 

 

การเก็บแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี

การที่คุณจอดรถไว้โดยไม่ได้ใช้งานเกิน 2 สัปดาห์ จะมีผลกับแบตเตอรี่ของคุณแน่นอน เพราะแบตเตอรี่จะมีการคายประจุไฟออกมาตลอดเวลา ถ้าไม่มีการชาร์จไฟเข้า แผ่นธาตุภายในจะเสื่อมสภาพ ไม่สามารถเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ควรเก็บรักษาแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถนำแบตเตอรี่กลับไปใช้งานได้อีก ตามวิธีดังนี้ คือ

แบตเตอรี่แบบเปียก

แบบเปียก นิยม ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ แบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ต้องเติม และ ดูแลน้ำกลั่นบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง กับ แบบไม่ต้องดูแลบ่อย (Maintenance Free) ซึ่งจะกินน้ำกลั่นน้อยมาก โดยทั้ง 2 แบบนี้จะมีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น ในแบบแรกนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 1.5-2 ปี แต่ไม่ควรเกิน 3 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และ การดูแลรักษา ถ้ามีการดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อถึงอายุการใช้งานของมันก็สมควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้แล้ว 

แบตเตอรี่แบบแห้ง

แบบแห้ง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และ มีราคาแพง แบตเตอรี่รถยนต์ แบบแห้งนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 5-10 ปี แบตเตอรี่แบบนี้ไม่มีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น หรือไม่ก็ถูกซีลทับฝาไปเลย แต่จะมีตาแมวไว้สำหรับไว้คอยตรวจเช็คระดับน้ำกรด และ ระดับไฟชาร์จ

วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่ตามขนาดของรถยนต์

รถเก๋ง ญี่ปุ่น เครื่อง 1200-1900 ซีซี อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 45-60 แอมป์
 รถเก๋ง ญี่ปุ่น เครื่อง 2000-3000 ซีซี อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 60-75 แอมป์
รถเก๋ง ยุโรป เครื่อง 2000-3000 ซีซี อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด  75 แอมป์ ขั้วจม
รถเก๋ง ยุโรป เครื่อง 2800-4000 ซีซี  อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 แอมป์ ขั้วจม
รถกระบะ เครื่อง 2000-3000 ซีซี อาจเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 70-90 แอมป์

เราจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อใด

-ใช้งานมานานกว่า 1.5 - 2 ปี

-ไฟหน้าไม่สว่างเหมือนเช่นเคย

-กระจกไฟฟ้าทำงานไม่เหมือนเดิม (ช้าลง)

-ในตอนเช้า เครื่องยนต์สตาร์ท ติดยาก (รอบของเครื่องยนต์ไม่พอเพียง)

-ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยครั้ง 

ความรู้แบตเตอรี่รถยนต์ Youtube


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 2,143,998