OTA รถเช่า ทางเลือก หรือ ทางตัน !?

หากพูดถึง OTA หรือ Online Travel Agency เราจะเห็นสิ่งนี้ กันเกล่อตา จากเว็บที่จองโรงแรม ที่พัก และสายการบิน ทั้งระดับ High Cost กับ Low Cost ที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น และมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบราคากันให้เกิดการตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมากขึ้นในหลายๆ องค์กร ท่ามกลางยุคเปลี่ยนผ่านจาก อะนาล็อค เป็น ดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม หากเหล่าธุรกิจรถเช่า ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด จะมาใช้ระบบ OTA แบบนี้บ้าง จะเป็นอย่างไร ทาง รถเช่า ECOCAR rent-a-car จะมาอธิบายให้ชัดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

OTA คืออะไร !?

เป็นคำย่อจากชื่อเต็ม "Online Travel Agency" หมายถึง พื้นที่ที่ให้บริการด้านการจองสาธารณูปโภคต่างๆ ด้านการท่องเที่ยว เปรียบเสมือนเป็นตัวกลางที่นำเสนอเหล่าสาธารณูปโภคที่ต้องการ ให้เรา ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และ รถเช่า ที่เริ่มหันมาทำกันมากขึ้นในประเทศไทย พร้อมกับมีสิทธิพิเศษที่จะนำเสนอให้เราเลือกซื้อสินค้าตัวนั้นๆ อย่างเช่น ส่วนลดสูงสุด หรือ สวัสดิการเพิ่มเติมในการจองอะไรก็ตาม ให้แก่ผู้ที่สนใจ

ตัวอย่างที่เป็น OTA ได้บ้าง !?

• Agoda.com
• Expedia.com
• TripAdvisor.com
• Booking.com
• Traveloka.com
• TraveliGo.com

เทรนด์ OTA รถเช่า มายังละ !?

สำหรับการทำ OTA กับ รถเช่าในประเทศไทย ก็มีให้เห็นแล้ว ซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะ "รถเช่า ASAP" ที่ได้เปิดเป็น OTA ผ่านตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 โดยมีลูกค้าไทย กับ ต่างชาติ เป็นหลัก โดยเฉพาะ จีน ที่มีกำลังจ่ายสูง และ มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านที่มีวิธีการขับรถคล้ายกับประเทศไทย อีกทั้ง สะดวกสบายตรงที่เขาสามารถใช้ใบขับขี่จากประเทศมาตุภูมิได้ ทั่ว ASEAN เช่นเดียวกับ ไทย ที่จะไปใช้บริการรถเช่า ณ ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ASEAN

ข้อดี-ข้อเสียของ OTA

ข้อดีที่จะได้จาก OTA คือ "สามารถรวบรวมที่ที่เราสนใจได้ตรงหน้า และเลือกได้เลยทันที" โดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลที่ไหนๆ และ ทำให้เราสะดวกสบายในการค้นหาข้อมูลอะไรก็ตามที่เราอยากรู้ รวมไปถึง ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาหาเราได้ตลอด ยกตัวอย่างเช่น รถเช่าที่ยกเคสมาในข้อที่แล้ว จะมีแต่ลูกค้าไทย พอเรามี OTA จะได้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาด้วย ทั้ง จีน กับ 2 ชาติ ASEAN ที่มีกำลังเงินสูง ทั้ง มาเลเซีย และ สิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ OTA ก็จะมีด้วยเช่นกัน ตรงที่เราจะถูก "กดราคา" ที่เราสามารถขายได้ เพราะมันเป็นข้อพันธะกับบริษัท OTA ที่มีเงื่อนไขต่างกันไป ตามแล้วแต่บริษัท อีกทั้ง อาจจะเสียลูกค้าที่ภักดีได้ เพราะ จะมีการนำไปเทียบราคากับที่อื่นๆ ที่ทำในอุตสาหกรรมเดียวกัน

นอกจากนี้ ข้อเสียที่น่าจะเจอ คือ "วัยวุฒิของลูกค้า" หากเป็นลูกค้ายุคอะนาล็อค จะมีความเข้าใจที่ยากในการใช้บริการแบบ OTA ที่บางคนจะมีความกังวลว่า ที่กดจองไปจะไปปรากฏที่ปลายทางหรือไม่ หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไนที่เราไม่คาดคิด ตรงข้ามกับ ลูกค้าที่เป็นหนุ่มสาว ที่มีความเข้าใจในระบบนี้ง่าย และดำเนินการได้ลื่นไหลกว่า

หากไม่ทำร่วมกับ OTA ดีหรือไม่ อย่างไร !?

หากเราไม่ทำกับบริษัท OTA ก็ต้องดูปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ยกตัวอย่าง เช่น

• คุณภาพของสินค้า และราคาที่มีดีพอหรือไม่
• ชื่อเสียงความนิยม อยู่ในระดับที่ลูกค้าทั่วไปให้การยอมรับหรือไม่
• โปรโมชัน หรือ ส่วนลดพิเศษ ที่เราจะต้องให้ลูกค้า โดนใจพวกเขาเหล่านั้น มากพอหรือไม่