อยากเช่ารถกรุงเทพไปต่างจังหวัด ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

อยากเช่ารถกรุงเทพไปต่างจังหวัด ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

การเช่ารถกรุงเทพไปต่างจังหวัด ด้วยแล้ว เป็นอะไรที่ต้องทำการบ้านหรือวางแผนการบริหารอะไรต่างๆ มาให้หนักหน่วงเลย เพราะเราไม่ทราบว่าที่ที่เราจะไปที่นั่นมีอะไร เพราะอย่าลืมว่า ไม่ใช่ที่ที่เราคุ้นเคย หรือ อาจมีวัฒนธรรมอะไรแตกต่างกับชีวิตคนเมืองอย่างเราๆ มากน้อยตามแต่ละพื้นที่ ฉะนั้นแล้ว กระบวนการที่จะทำให้การเช่ารถกรุงเทพของคุณเอง จะต้องศึกษาในเรื่องไหนบ้าง ลองไปจดจำไว้เป็นวิทยาทานกันเลย เพื่อผลประโยชน์ของคุณเองในอนาคต

 

1. เช่ารถกรุงเทพไปต่างจังหวัด : ศึกษาเรื่องรถเช่าให้ดีๆ

จะเช่ารถกรุงเทพไปต่างจังหวัดทั้งที ก็ต้องมองหารถเช่าคุณภาพดีๆ เสียก่อน เป็นอันดับแรกๆ อีกทั้ง ราคาค่าเช่ารถไม่แพงจนเกินไป และสมเหตุสมผล ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ที่นำเสนอมากมาย และศึกษาเงื่อนไขไว้ให้ดีๆ เรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในการเช่ารถ เบื้องต้น ต้องมี บัตรประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์ และ บัตรเครดิต หากไม่มีจริงๆ ลองหาเพื่อนฝูงที่ใช้แทนก็ยังได้ เพราะ บางที่ซีเรียสมากๆ ในเรื่องบัตรเครดิต เพราะ จะเป็นการยืนยันตัวลูกค้าเราเองว่า น่าเชื่อถือในการให้เช่ารถ มีไว้ไม่เสียหลาย แต่หากจนใจจริงๆ ก็ดูในแต่ละที่ให้ถี่ถ้วน เพราะ บางที่ก็ให้เช่ารถได้เลย แม้จะไม่มีบัตรเครดิต และให้ใช้อะไรทดแทนได้เช่นกัน โดยทาง ECOCAR rent-a-car กับ EXCLUSIVE LUXURY CAR RENTAL พร้อมให้บริการรถเช่ากรุงเทพให้แล้ว 

 

2. วางแผนเรื่องการเดินทางและศึกษาเส้นทางไว้

น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนใช้รถ ต้องทราบไว้เลยทีเดียว เพราะว่า จะได้ใช้เวลาการเดินทางให้น้อยที่สุด ถึงที่หมายได้รวดเร็ว จะได้มีกิจกรรมความสนุกในการเดินทางด้านอื่นๆ มากขึ้นไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น หากจะเช่ารถไป จ.ระยอง ก็ให้เดินทางด้วยทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ระยอง ได้เลย ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก็เดินทางถึงแล้ว ส่วนทีเหลือ ก็ลดสโคปลงว่า ไป ระยอง และจะไปไหนต่อไป ก็ศึกษาเส้นทางย่อยลงไปอีก เช่น อยากไป "หาดแม่รำพึง" ก็ให้เดินทางไปทางหลวง หมายเลข 3 หรือ ถนนสุขุมวิท วิ่งผ่านเมืองระยอง ไม่มาก ให้เลี้ยวขวาตรง "สี่แยกตะพง" ก็วิ่งยาวๆ ไปก็ถึงหาดแม่รำพึง แล้ว

 

3. เตรียมเสื้อผ้าให้พอดี

เตรียมเสื้อผ้าไปให้พอดีกับจำนวนวันเดินทาง เพราะถ้าเตรียมชุดไปเกินแล้วไม่ได้ใส่จะทำให้เปลืองเนื้อที่ในกระเป๋า และทำให้กระเป๋าหนักด้วย ทั้งนี้หากใครไปทริปที่ต้องผจญภัย เปียกน้ำ เลอะโคลน ก็ควรคำนวณชุดที่ต้องเปลี่ยนให้ดีๆ ด้วย แต่หากเสื้อผ้าไม่พอ เราก็สามารถซักได้ หรือสามารถหาซื้อเอาได้เพราะเราเที่ยวอยู่ในประเทศไทย

โดยการหาชุดใหม่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ลำบากจนเกินไป เพราะ แต่ละที่ก็ต้องมีเสื้อผ้าขายเป็นของที่ระลึกอยู่แล้ว นอกจากนี้ ไม่รู้ว่าจะได้พัก ณ โรงแรมที่พัก หรือ บ้านของใครๆ ก็ตามแต่ หากมีของใช้ทำกิจส่วนตัวเป็นของตัวเองไว้ด้วยดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายของคนอื่นๆ ยิ่งมีสถานการณ์โรคระบาดด้วยแล้ว มีของตัวเองใช้เองดีกว่า เลี่ยงยืมของด้วยกันให้น้อยที่สุด รวมไปถึง ถุงพลาสติก ไว้เก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว แยกจากเสื้อผ้าที่นำพา ออกจากกัน ซึ่งอาจจะช่วยเป็นถุงไว้ให้เราอาเจียนตอนเมารถได้ เช่นกัน

 

4. กระเป๋ายา

หากคุณมีโรคประจำตัวคุณควรเตรียมยาเฉพาะทางของคุณ โดยกระเป๋ายาควรมียาสามัญเอาไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย สิ่งที่ควรเตรียมมีดังต่อไปนี้ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้อากาศและลดน้ำมูก ยาลดไข้ คาร์บอนสำหรับดูดซับสารพิษและยาแก้ท้องเสีย พลาสเตอร์แปะแผล และยาแก้เมารถ มีไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะจะให้หาเอาดาบหน้า จะไม่ทันการณ์เอา และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เงินที่เรามีไว้ใช้กับการซื้อจ่ายเดินทางเพื่อความสุขตัวเอง กับ เพื่อนฝูง คนพิฌศษ ดีกว่ามาเสียเงินกับการรักษาในระหว่างการเดินทาง คงกร่อยน่าดู จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองด้วย

 

5. แลกแบงค์และเหรียญย่อยติดตัว

เพื่อการใช้จ่ายอย่างคล่องตัวเวลาจ่ายค่าโดยสาร ค่าอาหาร ให้ทิปส์พนักงาน ค่าห้องน้ำสาธารณะ เพราะว่าตามต่างจังหวัดมักจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หากเอาธนบัตรใหญ่ๆ ไปให้ เพราะจะเสียเวลาในการหาเงินทอน มีที่เดียวที่ให้แลกให้แตกแบงค์ มีเพียงแค่ร้านสะดวกซื้อ เท่านั้น แต่หากที่ที่เราไปมันไม่มีอะไรเลย นอกจากร้านของชำ ร้านโชว์ห่วย ก็ต้องให้เงินเป็นเงินปลีกย่อยดีกว่า เพราะเป็นร้านแนวชาวบ้านๆ เขาอาจจะไม่พร้อมรับมือกับลูกค้าที่เงินหนาจากเมืองใหญ่อย่างเราก็ได้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือความสะดวกสบายในการค้าขายไปในตัวด้วย

Visitors: 2,208,003