83 ปี ประวัติโตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก
83 ปี ประวัติโตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก
หากพูดถึงยี่ห้อรถยนต์ที่ใครๆ ไม่มีใครไม่รู้จัก ยี่ห้อ "โตโยต้า" (TOYOTA) ที่เป็นแบรนด์ที่เราเห็นกันเกร่อในประเทศไทย และเป็นที่นิยมทั่วโลก ขนาดยังเอามาเป็นรถแข่งมาแล้ว ทั้งในรายการรถแข่งทางเรียบ ชิงแชมป์โลก กับ รถแรลลี่ ชิงแชมป์โลก ซึ่งทาง รถเช่า ECOCAR rent-a-car จะมาเล่าถึงประวัติโตโยต้า นวัตกรรมชื่อดังระดับโลก ยี่ห้อนี้ให้ทราบกัน และการเข้ามาในประเทศไทย เข้ามาเมื่อไหร่ จะมาเปิดตำนานนี้กัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เป็นที่รู้จัก อย่าง "ไคเซ็น" (KAIZEN) ที่แปลว่า "การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แบบไม่หยุดยั้ง จะทำให้เราเป็นผู้นำในที่สุด"
ประวัติโตโยต้า ที่มีจุดเริ่มต้นจาก "ช่างไม้" และ "เครื่องทอผ้า"
โดยผู้ให้กำเนิดรถยนต์ระดับโลกนี้ ก็คือ "ซาคิจิ โทโยดะ" (Sakichi Toyoda) เกิดในปี 1867 หรือปี พ.ศ. 2410 ในครอบครัวช่างไม้แสนอัตคัต ที่นำไม้มาเป็นสิ่งก่อสร้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้านเรือน และ วัดวาอาราม ที่ประเทศญี่ปุ่น จะนิยมใช้ไม้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยความที่ตัว ซาคิจิ โทโยดะ เอง ก็มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและกลไก จนสามารถให้กำเนิด "เครื่องทอผ้า" ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการทอผ้า ซึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติโตโยต้า ณ เมืองไอจิ จ.นาโกย่า จะมีให้เห็นกัน
นำรถจากตะวันตก มาพัฒนาต่อจนได้เป็นแบรนด์แห่งชาติของญี่ปุ่น
ต่อมา คิอิจิโร โทโยดะ (Kiichiro Toyoda) บุตรชายของ ซาคิจิ โทโยดะ ที่ได้ศึกษาต่อ และได้ท่องเที่ยวแถวยุโรปและอเมริกา ซึ่งได้ซื้อรถยนต์จากยุโรป เอามาพัฒนาต่อ พร้อมเดียวกับตัว โทโยดะ ผู้พ่อ ได้ขายสิทธิบัตรเครื่องทอผ้าไปให้ทางยุโรปและอเมริกา เพื่อเป็นกองทุนในการพัฒนารถยนต์ ที่มองว่าต่อไปจะเป็นสิ่งที่นำพาความเจริญสู่ประเทศญี่ปุ่นในอนาคต ในปี 1929
แต่ทว่าใน 1 ปีต่อมา ตัว ซาคิจิ โทโยดะ ดันเสียชีวิตลงไป จนตัว โทโยดะ รุ่นลูก ต้องทำอะไรให้เต็มที่ด้วยตนเอง โดยปราศจากผู้พ่อ ให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ได้ จนมาปี 1933 ก็ได้กำเนิดแบรนด์ "โตโยดะ" (TOYODA) ที่ผลิตมา 2 รุ่น คือ รุ่น "A-1" (เอวัน) ที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก กับ รถบรรทุก รุ่น "G-1" (จีวัน) แต่ปรากฏว่า "รถบรรทุก รุ่น G-1" กลับกลายเป็นที่นิยมของผู้คนในแดนอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างมาก จนผลิตออกมาแทบไม่ทันต่อความต้องการ เพราะว่าสามารถนำไปบรรทุกสินค้า หรือ บรรทุกผู้คนไปไหนมาไหนในจำนวนมากได้สะดวกสบาย นั่นเอง จนได้นำเงินจากการขายรถบรรทุกรุ่นที่เป็นรุ่นแจ้งเกิดของแบรนด์ มาต่อยอดพัฒนาในเวลาต่อมา
รีแบรนด์เป็น "โตโยต้า"
ต่อมาในปี 1936 หรือ 3 ปีให้หลังจากที่ได้เปิดตัว รถแบรนด์ "โตโยดะ" ก็ได้มีการรีแบรนด์ใหม่ จนเป็นที่รู้จักนับตั้งแต่นั้น เป็นชื่อยี่ห้อว่า "โตโยต้า" (TOYOTA-トヨタ) เพียงแค่เปลี่ยนการเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยการนับเส้นของพู่กัน トヨダ ซึ่งเขียนเป็นจำนวน 10 ครั้ง ในภาษาญี่ปุ่น เลข "10" อ่านว่า "จู" (じゅう-十) เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า "จูบุน" (十分) ที่แปลว่า "พอ"
ฉะนั้นจึงตัดการเขียนครั้งที่ 9 และครั้ง 10 ออกไป (ก็คือตัว "ฟันหนู" นั่นเอง จาก トヨ "ダ" เป็น トヨ "タ") จนนับได้ 8 เส้น ที่ตัวเลข 8 สื่อถึง "Infinity" หรือ ไม่มีสิ้นสุด นั่นเอง และได้นำวงรี 3 วงมาประกอบกัน เป็นรูปตัว "T" โดยวงรีแนวนอนด้านบน จะสื่อถึง "ลูกค้า" ส่วน วงรีแนวตั้ง จะสื่อถึง "สินค้า" และวงรีวงใหญ่ ก็คือเอาทั้ง 2 สิ่งมารวมกันให้สื่อถึงว่า "เราจะส่งมอบสินค้าที่ดีที่สุดให้ลูกค้า เพื่อเกิดความพอใจสูงสุด" จวบจนมาถึงปัจจุบัน ในนาม โตโยต้า มอเตอร์ส (Toyota Motor Co., Ltd.) เพื่อเป็นแบรนด์ที่ให้ชาวญี่ปุ่น สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ทุกๆ คน
สู่ประวัติโตโยต้า ณ แดนสยามในยุคต้น 60
จวบจนในปี 1962 หรือ พ.ศ. 2505 รถยนต์ "โตโยต้า" ได้เข้ามาสู่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งในปีนี้ก็จะครบรอบเป็นปีที่ 58 พอดิบพอดี ในนาม Toyota Motor Thailand Co., Ltd. หรือ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยเฉพาะ TOYOTA CORONA จนมาเป็น COROLLA ในเวลาต่อมา ที่ได้มาประกอบในไทย โดยสมบูรณ์ และได้รับความนิยมไม่น้อย ในสายตาประชาชนแดนสยาม ชนิดว่า ทุกคนมีรถยนต์โตโยต้า แทบทุกหลัง จวบจนปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็น TOYOTA COROLLA, TOYOTA COROLLA ALTIS จนมาถึง TOYOTA COROLLA VIOS และยังมีรถกระบะ ให้เลือกด้วย อาทิ HILUX MIGHTY-X, TOYOTA HILUX TIGER จนมาถึง TOYOTA HILUX VIGO ด้านรถยนต์ SUV ก็จะเป็นพวก TOYOTA LAND CRUISER และ TOYOTA FORTUNER ที่ทาง รถเช่า ECOCAR rent-a-car มีให้เช่ารถฟอร์จูนเนอร์ แล้ว
วิสัยทัศน์ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
- ครอบครองอันดับ 1 ของส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศอย่างมั่นคง
- สร้างความสามารถในการแข่งขัน และความสามารถในการสนองตอบความต้องการให้สมกับการเป็นฐานการผลิตระดับโลก
- เป็นแหล่งสร้างกำไรหลักของเอเชีย
การคืนกำไรสู่สังคม (CSR)
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังนี้
- มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย เป็นมูลนิธิที่ทำหน้าที่ในการสร้างสรรค์โครงการต่าง ๆ ที่เป็น ประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อส่งเสริมสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมของ ประเทศไทย
- โครงการถนนสีขาว เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้ใช้ถนนให้คำนึงถึงความปลอดภัย
- โครงการหนังสือมือสอง เพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชนนำหนังสือเก่ามาบริจาค ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนหนังสือทั่วประเทศ
- โครงการมอบข้าวรัชมงคล แด่ 40 มูลนิธิ และองค์กรสาธารณกุศล ถือเป็นส่วนหนึ่งของพระราชดำริของ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" มีที่มาจากช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งบริษัทฯ เป็นองค์กรเดียวที่ไม่ได้ปลดพนักงานออก แต่แก้ปัญหาโดยการผลิตให้ช้าลง เนื่องจากบริษัทฯ มองว่าคนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด และมองการณ์ไกลไปถึงช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวว่า หากปลดพนักงานออกในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำแล้ว เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นจะไม่มีคนทำงาน การตัดสินใจดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ได้รับการยอมรับมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ทำโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการ และในช่วงนั้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้สั่งซื้อรถยนต์โตโยต้า โซลูน่า (TOYOTA SOLUNA) จากบริษัทฯ นำไปถวายโดยมิต้องการรับทรัพย์สินส่วนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงขอให้นำเงินค่ารถคันดังกล่าวจำนวนประมาณ 6 แสนบาท ไปทำโครงการเพื่อเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจาก บริษัทฯ มีโรงงานผลิตอยู่ที่เกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทฯ จึงนำเงินจำนวนดังกล่าวไปสร้างโรงสีข้าวรัชมงคลขึ้นในโรงงานเกตเวย์ และเป็นที่มาของการผลิตข้าวรัชมงคลเพื่อบริจาคให้มูลนิธิการกุศลต่างๆ สร้างความปลาบปลื้มและสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ จวบจน ณ ปัจจุบัน
- โครงการหนูรักผักสีเขียว เพื่อส่งเสริมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และให้ความรู้ทางโภชนาการแก่เด็กวัยเรียน
- โครงการบ้านตะวันใหม่ เพื่อบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพจิตใจแก่เด็กและเยาวชนที่ติดยาเสพติด ให้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้อีกครั้ง
สุดท้ายแล้ว ก็มีประวัติโตโยต้าเบื้องต้นไว้แล้ว
อย่างไรก็ขอขอบคุณเพจ Welldone Guarantee มา ณ ที่นี้ด้วย