เช่ารถตู้ขับเอง ไปเที่ยวฤดูฝน

เช่ารถตู้ขับเอง ไปเที่ยวฤดูฝน


ปัจจุบัน รถตู้ถือว่าเป็นพาหนะยอดนิยมที่ใช้สำหรับพาผู้โดยสาร ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อนฝูง หรือทีมงาน ในการไปทำธุระหรือท่องเที่ยวที่ต่างๆ พร้อมทั้งแบกสัมภาระข้าวของได้เป็นจำนวนมากกว่ารถเก๋งทั่วไป  

ทำให้ใครต่อใครหลายคนเลือกที่ใช้บริการรถตู้ แต่ครั้นจะซื้อรถตู้เลยก็มีราคาที่สูงพอสมควร ดังนั้นการเลือกรถตู้ให้เช่าเพื่อขับเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เมื่อต้องการใช้งานรถตู้ 

ทั้งแบบเช่ารายวัน เช่ารายเดือน เช่าระยะยาว เช่าขับเอง หรือเช่าพร้อมคนขับ ซึ่งปัจจุบันนี้มีบริษัทรถตู้เช่าเปิดให้บริการหลายแห่งให้คุณได้เลือกใช้บริการ  และสำหรับใครก็ตามที่กำลังจะวางแผนเดินทางไปที่ต่างๆและกำลังมองหาการเช่ารถตู้ราคาถูก สามารถจองรถตู้เช่าออนไลน์ 24 ชั่วโมงกับ ECOCAR rent-a-car ได้ที่นี่เลยนะ 

 

 

 

 5 สถานที่ท่องเที่ยว ฤดูฝน

 1. ภูสอยดาว 

 เริ่มต้นที่เที่ยวหน้าฝน ที่แรกกับภูสอยดาวเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในลิสต์ต้องห้ามพลาดของนักเดินป่าในประเทศไทย ซึ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้จะมีสายหมอกลอยต่ำลงมาปกคลุมทั่วทั้งป่า

เป็นม่านหมอกที่เชิญชวนให้ทุกคนมาสัมผัส นอกจากนี้ต้นไม้ยังมีความเขียวขจีมากกว่าฤดูใดๆ รวมถึงไฮไลท์สำคัญอย่างดอกหงอนนาคก็ผลิดอกให้เห็นกันในช่วงนี้ด้วย 

 

น้ำตกภูสอยดาว

      อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นน้ำตกขนาดกลางในลำห้วยน้ำพายไหลลงสู่แม่น้ำปาด มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี

 

น้ำตกสายทิพย์ 

        เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมาก จึงมีมอสส์สีเขียวปกคลุมทั่วไปตามก้อนหินริมน้ำ 

ลานสนสามใบภูสอยดาว 

      เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร ถึงแม้จะดูสูงไม่มากแต่ก็สูงกว่าภูกระดึง เหตุนี้เองจึงเป็นสาเหตุให้การเดินเท้าขึ้นสู่ลานสนภูสอยดาวแม้จะมีระยะทางใกล้กว่า แต่ก็สูงชันกว่าการเดินเท้าขึ้นสู่ภูกระดึง สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบ พืชชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ การเดินทางไปเที่ยวลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวริมเส้นทางหลวงหมายเลข 1268 ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง เป็นทุ่งดอกหญ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ บนลานสนยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม บนลานสนไม่มีบ้านพักและอาหาร หากต้องการจะขึ้นไปพักค้างแรมต้องเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง หากต้องการจะขึ้นลานสนต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทาง อุทยานฯ มีบริการลูกหาบช่วยขนสัมภาระ อนุญาตให้ขึ้นภูได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 13.00 น. หลังจากนั้นไม่อนุญาตให้ขึ้นภู เนื่องจากการเดินทางไปถึงลานสนจะเป็นเวลามืดอาจเกิดอันตรายได้

 

2. ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก 


ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2527 เป็นพื้นที่ที่ มีธรรมชาติแปลก และสวยงาม ทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์เป็นยุทธภูมิ ที่สำคัญ อันเนื่องจากความขัดแย้งของลัทธิ และแนว ความคิดทางการเมือง อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้าจึงเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่รักษาไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ ของการสู้รบและความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ลักษณะภูมิอากาศภูหินร่องกล้ามีลักษณะภูมิอากาศคล้าย ภูกระดึงและภูหลวง เนื่องจากมีความสูง ในระดับไล่เลี่ยกัน อากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูหนาว อุณหภูมิ จะต่ำประมาณ 4 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย ฝนตกชุกในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส

 

เดินศึกษาเส้นทางเดินป่าโบราณที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย พร้อมทั้งซึมซับความสมบูรณ์ของป่าฝนที่นี่ ตลอดเส้นทางเดินป่าของภูหินร่องกล้า คุณจะได้พบกับพืชเมืองหนาวและพืชที่เติบโตได้ดีในป่าฝนมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นมอส เฟิร์น และต้นไม้หายากต่างๆ เช่นบีโกเนียเป็นต้น นอกจากนี้ไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดนั่นก็คือลานหินปุ่มจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการของภูหินร่องกล้านั่นเอง 

 

3. บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก จังหวัดกาญจนบุรี


บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาแห่ง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวลง คงไว้ซึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวยอดฮิต ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติ เดินทางเข้ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะได้พบกับภาพไอหมอกปกคลุมทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นภาพที่โรแมนติกงดงามมาก  

 

จากตัวเมืองทองผาภูมิ เริ่มเข้าสู่ตำบลปิล๊อคผ่านเส้นทางที่ไปยังหมู่บ้านอีต่อง เป็นถนนที่เริ่มคดเคี้ยวในหุบเขา ช่วงแรกเป็นถนนลาดยางอย่างดี แต่พอผ่านไปสักพักจะได้พบกับถนนที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง บางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อที่ระยะทางค่อนข้างยาวพอสมควร ต้องขับรถอย่างระมัดระวังกันนิดนึง ก่อนเดินทางให้เติมน้ำมันมาให้พร้อม เพราะเส้นทางเป็นภูเขาไม่มีปั้มใดๆ ไปจนถึงหมู่บ้าน

 

4. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง (ปางอุ๋งสุพรรณบุรี) จังหวัดสุพรรณบุรี


หากคุณเคยได้สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ปางอุ๋งจังหวัดแม่ฮ่องสอน บรรยากาศเหล่านั้นคุณสามารถมาสัมผัสได้ใกล้ๆ กรุงเทพที่จังหวัดสุพรรณบุรี กับอ่างเก็บน้ำสุดโรแมนติกที่มีบริการล่องแพ 

นอนพักผ่อนท่ามกลางหมู่ดาวและรอต้อนรับสายหมอกในยามเช้า อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงที่เที่ยวหน้าฝนสุดมหัศจรรย์ใกล้กรุงเทพ มาพักผ่อนที่นี่จะทำให้เวลาชีวิตของคุณเดินช้าลงไปและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

 

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงสุพรรณบุรี เกิดจากความร่วมมือของชุมชนช่วยกันพัฒนาและดูแลพื้นที่ป่าของหมู่บ้านให้สามารถรับนักท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย และเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่เหมาะกับการการมาพักผ่อน จะมาแค้มปิ้ง กางเต้นท์ หรือนอนบนแพ สถานที่สวยงามตามธรรมชาติ พายคายัค ตกปลา

 

ยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพุน้ำร้อนและมีบ่อน้ำพุร้อนซึ่งอยู่ช่วงกำลังปรับปรุงตั้งอยู่ในวัดพุน้ำร้อน ในวัดยังมีการทอผ้าของชาวบ้านซึ่งทอผ้าลายโบราณ  สำหรับ อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง สุพรรณบุรี ควรไปถึงที่หมายไม่เกิน 12.00 น. ในวันหยุด เพราะไม่อย่างนั้นเราจะหาที่กางเต้นท์ลำบาก เพราะวันหยุดคนจะเยอะ…ควรมีเต้นท์ไปเอง..เพราะไม่มีเต้นท์ให้เช่า แพที่พักมีจำกัด : ค่าเช่าแพถ้ามากินอาหาร ก็คิดหัวละ 300 บาท แต่ถ้าจะเป็นการนอนนั้น คิดหลังละ 400 บาท

 

5. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี


หน้าฝนแบบนี้ขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนยอดเขาถือเป็นทางเลือกที่ดี ถ้าหากคุณไม่อยากเดินทางไกลแต่อยากสัมผัสกับบรรยากาศการขึ้นเขารับลมหนาวและชมหมอกหน้าฝน

เขากระโจม จังหวัดราชบุรี คือทางเลือกที่คุณต้องห้ามพลาด ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ขอบอกเลยว่าทะเลหมอกบนเขากระโจม ที่เที่ยวหน้าฝนแห่งนี้สวยมากๆ ชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอกแบบฟินๆ ใกล้กรุงเทพห้ามพลาด

 

เขากระโจม จากระดับความสูง 1,045 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในแนวสุดเขตประเทศไทย ภาคตะวันตก เขากระโจมจึงกลายเป็นจุดชมทะเลหมอกที่ กำลังนิยมมาก เพราะใกล้กรุงเทพฯ  สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจดจำไม่รู้ลืม คือ หนทางที่สมบุกสมบันยากลำบาก จนเป็นเรื่องพูดคุยในความทรงจำตลอดไป   เขากระโจม ที่มีบางคนเรียกว่า เขาช่องกระโจม นั้น คนพื้นที่เล่า ให้ฟังว่า ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่อาศัยในผืนแผ่นดินบริเวณนี้มาก่อนเรียกชื่อว่า เขาลันดา ซึ่งหมายถึง ภูเขาที่มีที่ราบ คนไทยรุ่นที่ไปทำเหมืองแร่ดีบุกที่นั่นย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน เห็นรูปลักษณะของเขาว่าคล้าย กระโจมอินเดียนแดง ก็เลยเปลี่ยนชื่อให้เป็น เขากระโจม

 

หลังจากชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขากระโจมแล้ง ระหว่างทาง ยังแวะชม “น้ำตกผาแดง” เดินเท้าเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก่อนจะพบกับสายน้ำตกขนาดกลางไหลผ่านหน้าผาหินสีแดง อันเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกผาแดง” ท่ามกลาง ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น หากมาในช่วงหน้าฝนจะมีทากต้องเตรียมอุปกรณ์กันทากมาให้พร้อม และสนุกน่าฉงนกับ  “เนินมหัศจรรย์ ”  เมื่อจอดรถยนต์ตรงเนินมหัศจรรย์ รถยนต์จะค่อยๆ ไหลขึ้นเนินเอง โดยที่ไม่ต้องติดเครื่องยนต์หรือใส่เกียร์เดินหน้าเลย ซึ่งเนินมหัศจรรย์จะมีป้ายบอกไว้


เป็นยังไงกันบ้างครับกับเส้นทางเที่ยวแต่ละที่ ก่อนออกเดินทางก็ควรวางแผนและตรวจสอบสภาพรถกันก่อนนะครับ ทั้งรถเล็กรถใหญ่ หรือเพื่อนๆชาวสองล้อเล็ก เพื่อให้ทริปการท่องเที่ยวของเราสะดวก ปลอดภัย และควรมีเพื่อนไว้ดูแผนที่และ GPS ในขณะเดินทางด้วยนะครับ จะได้ไม่หลง เตรียมตัวเก็บของเก็บเต็นท์เก็บกระเป๋าใส่หลังรถ แล้วออกเดินทางไปเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ กันครับ ขับรถเที่ยวกันให้สนุกนะครับ

Visitors: 2,152,692